หน้าเว็บ

www.mi-favorita.blogspot.com

www.mi-favorita.blogspot.com

10.29.2556

Tommy Emmanuel & Martin Taylor Live in Bangkok

กีต้าร์
Ticket of Tommy Emmanuel & Martin Taylor Live in Bangkok
ในทีสุดก็ได้ดู สองคนนี้เล่นซักที ผมซื้อบัตร์ราคา 2,000 บาทนับว่าเป็นตั๋วดูการแสดงดนตรีที่แพงที่สุดนับแต่ได้ซื้อมาครับ แถวที่นั่งก็มองเห็นเวทีได้ดี แต่เสียดายภ่ายภาพด้วยมือถือ ระยะขนาดนี้ ภาพออกมาไม่ดีครับ

เจอนักดนตรีหรือเพื่อนใน Facebook คุ้นๆหน้าหลายคนเลยแต่ไม่ได้ทักทายกัน นอกจากคนไทยก็มีฝรั่งแฟนคลับติดตามมาดูเยอะเลยสังเกตุดู ที่นั่งเต็ม M Theatre นะครับ

กีต้าร์
Tommy Emmanuel & Martin Taylor Live in Bangkok

10.27.2556

อยากให้ร้านขายCD ,อุปกรณ์เครื่องดนตรี พัฒนากว่านี้

Tommy Emmanuel & Martin Taylor
The Colonel & The Governor ,Tommy Emmanuel & Martin Taylor
ผมเคยศึกษา VCD การสอนของ Tommy Emmanuel และ Martin Taylor ก่อนที่ผมจะเล่นกีต้าร์ หรืออาจจะเป็นช่วงเวลาคาบเกี่ยวเดียวกันประมาณนั้น  หลายครั้งที่ Tommy Emmanuelมาเล่นที่เมืองไทยแล้วผมพลาดไปเพราะเป็นโรคบ้างาน หรือ Martin Taylorมาเล่นที่เมืองไทยพอแถึงเวลาจริงก็ติดงานอีก แต่ครั้งนี้คิดว่าคงไม่พลาดเพราะทั้งคนที่ผมอยากดูเล่นสดซักครั้ง เหมือนจะเอาใจคนไม่ค่อยว่างอย่างผมจึงรวมตัวกันมาแสดงที่เมืองไทยเป็นครั้งแรก  ( ผมซื้อตั๋วแล้วแต่ก็ยังไม่แน่นอน ถ้ามีงานด่วนขึ้นมาจริงๆ )

Tommy Emmanuel & Martin Taylor
The Colonel & The Governor, Tommy Emmanuel & Martin Taylor  ( ด้านใน  )

 เข้าเรื่องว่า ผมเจออัลบัมเล่นคู่ ระหว่าง Tommy Emmanuel (ทอมมี่ เอ็มแมนวลเอล) และ Martin Taylor ( มาร์ติน เทย์เล่อร์ ) ชุด The Colonel & The Governor ค่าย Sony Music เลยซื้อมาฟังเพื่อบิ้วอารมณ์ก่อนชมคอนเสิร์ตจริง ราคาขายแผ่นละ380 บาท 
ผมคิดว่าอัลบัมชุดนี้ออกมาโปรโมททัวร์ ของมาร์ตินและ ทอมมี่นะครับ List รายการชื่อเพลงเป็นเพลงเก่านำมาCover ใหม่ เพราะดีครับ
เรื่องที่อยากบอกคือ ผมซื้อ CD ชุดนี้จากร้าน  HI-End Music Listening Boutique อยู่บริเวณชั้น 4 การแต่งร้านดูดีส่วนใหญ่ผมสังเกตคนเดินผ่านไป-มา จะแวะเข้ามาดูเป็นส่วนใหญ่นะครับ / ส่วนเครื่องเสียงที่เปิดบรรเลงตลาดเวลานั้นเสียงเพราะจนผมแยากได้เครื่องชุดนั้นเลยทีเดียว   ข้อเสียในฐานะนักบริโภค เสียงเพลงและชอบเข้าร้านขายเครื่องดนตรีเป็นกิจวรรตแย่างผมเจอ  มักจะเจอคนขายที่พูดไม่ค่อยมีหางเสียงหรือถามคำตอบคำ  ร้านขายอุปกรณ์ดนตรีก็เหมือนกัน การขอลองฟังเสียงหรือเล่แทบจะเป็นการวัดใจกันเลยที่เดียวลองไปก็เครียดไป เสียงไม่ถูกใจ จับไม่ถนัดมือไม่ซื้อมันจะว่าไม๊ เล่นนั่งเฝ้าระยะประชันชิดเลย ลองแล้วเครียด

แปลกดีไหม เสียงดนตรี อยู่ใน Mode ความรื่นรมย์      ทำไมงานบริการสินค้าประเภทนี้ถึงคล้ายๆกันหมดนะ ถ้าไม่รักงานขาย งานบริการจริงควรไปหาสิ่งที่ตัวเองชอบดีกว่า            ที่เขียนไม่ได้ตำหนิใครโดยเฉพาะ อย่างร้าน HI-End Music Listening Boutique ผมก็เพิ่งเข้าไป Like ใน Face Book มากี้นี้เองเป็นการพูดทั่วๆไปนะครับ                ปล.มีน้องที่เป็นพนักงานขายอีกคนในร้านที่พยายามเข้ามาสอบถามและให้บริการ  ส่วนอีกคนนั่งที่เคาเตอร์คงเป็นซีเนียร์หรือเป็นเจ้าของก็มิทราบได้มาดการพูดและท่าทางได้มากครับ