หน้าเว็บ

www.mi-favorita.blogspot.com

www.mi-favorita.blogspot.com

9.15.2555

Guitar Marker--> Schneider

Guitar Maker
Richard  Schneider
ชไนเดอร์ ( Schneider ) หรือชื่อ เต็มๆคือ Richard Lawrence Schneider เกิดเมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 1936 เขาศึกษาการทำกีต้าร์ครั้งแรกใน เม็กซิโก ซิตี้  ระหว่างที่เขาทำงานในฐานะ วิศวกรที่ General Motors ใน ดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ประเทศ อเมริกา   เขาเริ่มสายอาชีพการทำกีต้าร์ในแบบ Traditional classical guitars ตั้งแต่ปี 1967  เขาทำงานร่วมกับ นัก acoustical theorist ชื่อ Professor Michael Kasha  จนในที่สุดได้พัฒนา และออกแบบ soundboard จนเป็นเอกลักษณ์ ( Kasha soundboard )  

soundboard ที่เป็นเอกลักษณ์ ของ Schneider

 ในหลายๆปีถัดมา Schneider ได้แนะนำนวัตกรรม ของเขาประกอบด้วย vibrating softwood backs, braced similar to the soundboard และ ตำแหน่งใหม่ของ soundhole    รูปแบบนี้ถัดมา ได้รับความสนใจจากทั้ง นักทำกีต้าร์และ นักกีต้าร์ทั่วโลก 

 Richard  Schneider ปัจจุบันเขาได้ลาโลกไปแล้ว ทิ้งไว้แต่ นวัตกรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ 
 

บทสัมภาษณ์ Lauro ( 10 ) จบ


Lauro  guitar
Antonio Lauro
Luis Zea : สุดท้ายแล้วครับ Maestro  ผมอยากทราบว่า ความเชื่อหรือ ปรัชญาใดที่ผมอิทธิพลต่อเพลงของคุณ และ ซึ่งอาจมีความเข้าใจในการฟังเพลงของคุณ

Antonio  Lauro :  ไม่ เลยครับ, ไม่มีคำกำจัดความ หลายๆครั้งผมพูดกับคนอื่นมีความคิดเกี่ยวกับเพลงของผมซึ่งผมไม่เคยจิตนาการถึง เลย และ ผมคิดว่ามันอาจจะถูก( แบบที่คนอื่นพูด ) ; แต่ การแทรกซึมของภาพเข้าไปในงานชิ้นหนึ่งจะต้องเกิดในจิตใต้สำนึกเพราะผมมีความคิดของมันโดยเฉพาะในแง่ ของดนตรีของ pure music นี้ทำให้เกิด contrastที่ดีกับเพลง  สร้างอารมณ์ความรู้สึกและเป็นที่พอใจ  หรือ ผมชอบคอร์ดนี้ ผมก็ใช้มัน 

 โดยเฉพาะในแง่ของการทำงานดนตรี ในเพลงของผมไม่ได้มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอย่างนั้นจริงๆ 
ผมพบว่ามันยากมากที่จะเขียนบทกวีไพเราะเหล่านั้นซึ่งทำให้เกิดจิตวิญญาณ ถ้าผมทำอะไรเช่นนั้นจะเป็นการอวดรู้และน่าขัน 
ก็เป็นการเขียน ถึงการสัมภาษณ์ Lauro เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะครับ อ่านดีๆก็คงได้ทราบวิธีคิด ตัวตนของ Lauro  ไปบ้างไม่มากก็น้อยครับ

บทสัมภาษณ์ Lauro ( 9 )

Luis Zea :คุณ ช่วยพูด เกี่ยวกับ อัตราจังหวะ 3/4 และ 6/8 ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมากในเพลงของคุณ ?


Guitar Lauro
Antonio Lauro
Antonio  Lauro :  นั้น เป็นเพลง ตามแบบ Venezuelan music , โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพลง vales และ joropo    ในเพลงแบบนี้ส่วนใหญ่จังหวะจะเป็น 3/4 และ 6/8 ซึ่งเกิดขึ้นในเพลงกลุ่ม ลาตินอเมริกา และสเปนจำนวนมาก  บางครั้งคุณเห็นมือขวาของนักเปียโน เล่นในจังหวะ 6/8 และมือซ้ายเล่นในจังหวะ 3/4 หรือในทางกลับกันนี่เป็นหนึ่งในหลายชนิดของเพลงซึ่ง บรรจุจังหวะทับซ้อน ของ 3/4 และ 6/8

Note Joropo คือ รูปแบบเพลงเต้นชนิดหนึ่งที่เกิดในเวเนซูเอลา



Luis Zea :และมีการ เปลี่ยนจากอัตรา 3/4 ในบาร์ที่หนึ่งไปสู่ อัตรา3/2 ในบาร์ที่สอง ซึ่งเกิดขึ้นมากในเพลงของคุณ ?

Antonio  Lauro : อีกครั้ง , บางอย่างเป็น Venezuelan มากๆ ไม่ใช่จากผม

บางครั้งผมถามตัวเองว่า ทำไมไม่เขียนอัตรากำหนดความเร็วมันลงไปขณะที่เขียน score โดยผม   ซึ่งจะทำให้ชัดเจนกับนักแสดง

เพราะ ว่าอัตรา 3/2 นี่ไง , เหมือนที่ผมบอกคุณก่อนหน้านี่ การใช้ dynamic marking , expression marking และเครื่องหมายบ่งชี้อื่นๆ บางครั้งมันไม่จำเป็น 

นักดนตรีที่ดี เขาจะพบปัญหาเพื่อศึกษา, วิเคราะห์ และเข้าใจมัน  นักดนตรีที่กำลังบรรเลงใน จังหวะ 3/4 ทันทีที่มองห็น 3/2 ทันทีนั้นมีแนวโน้มจะบรรเลงช้าลง มันเป็นปัญหาฟื้นฐานของ notation.

บทสัมภาษณ์ Lauro ( 8 )


Luis Zea : คุณพอใจกับงานของคุณหรือเปล่า ?

Antonio  Lauro : ผมมีความสุขทุกอย่างที่ผมทำ ครั้งหนึ่งผมเคยถามใน Class ที่ Castres ,  ผมถามนักเรียนของผม ว่ารูปแบบดนตรีที่เขาชอบ คือ polytonal หรือ tonal traditional และคำตอบพวกเขาสนับสนุนผมอย่างมากเพราะว่า เขาชอบทั้งสอง Stlyes 
จริงๆแล้วมันส่งเสริมบางอย่างเมื่อมีคนพูดกับคุณว่า เขาชอบสิ่งที่คุณ เขียน ( ประพันธ์ )

Lauro Guitar
Antonio Lauro


Luis Zea :กลับไปช่วงที่ผมได้ศึกษาดนตรีกับคุณ ผมจำได้ว่า คุณเล่น Bass line ได้ชัดเจนมาก  คุณช่วยบอกสิ่งนี้สักหน่อยได้ไหม ?


Antonio  Lauro :  ผมแนะนำให้ดึง bass line ออกมาและทำให้มันร้องเพลงได้ ' sing' .โดยเฉพาะอย่างยิ่ง bass เป็นโครงสร้างที่ดี เพราะว่านักดนตรีเข้าใจและรู้สึก ถึง bass ซึ่งSupport โครงสร้างทั้งหมดของการประพันธ์เพลง อย่างที่รู้ เสียง bass ต้องฟังได้ชัดเจน

ตรงนี้สำคัญมาก ผมให้ความสำคัญลำดับแรกที่ upper voice ต่อมาคือ bass line  การตีดแบบพักสาย ( rest stroke) จะต้องไม่ สุญเสีย ( not be lost ) แต่ต้องไม่เกิด overshadow ของ bass     นั้นเป็นเหตุผลที่ผมไม่ชอบเล่นแบบ ดีดผ่าน ( free stroke )กับนิ้วหัวแม่มือ และชอบใช้เทคนิคนี้เป็น ดีดแบบพักสายเมื่อไรก็ตามที่เป็นไปได้         มันคุ้มมากที่จะได้เสียง bass ที่ดี ผมรู้สึกว่าเบสของผมเป็นโครงสร้างที่ดี ผมค่อนข้างชอบมัน