|
Agustin Barrios Mangore |
ออสติน บาร์ริออส ( Agustin Barrios Mangore ) เป็นนักกีต้าร์คลาสสิคและนักประพันธ์ที่ผมชอบมากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว ผมรู้สึกว่าทุกเพลงที่เขาแต่งมามีเสน่ห์เฉพาะตัวจริงๆ
ฺ
Barriosเกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1885 ที่ San Juan Bautista เป็นอำเภอหนึ่งของ Misiones อยู่ทางตอนใต้ของประเทศปารากวัย ชื่อเดิมคือ Agustin Pio Barrios พ่อของบาร์ริออสเป็นชาวอาร์เจนตินาชื่อ Doroteo Barrios ส่วนแม่เป็นครูชาวปารากวัยชื่อ Martina Ferreira บาร์ริิิออสมีพี่น้องถึง 7 คน เรียงตามปีเกิดดังนี้ โรมูโล (Rómulo 1874), เฮคเตอร์( Héctor 1875), Virgilio (1874), โจเซฟ (José 1881),
Agustín (1885), Diodoro (1888) และ มาร์ติน (Martín 1895)
Agustin Barrios เกิดในครอบครัวนักดนตรีโดยพ่อของเขาเล่นกีต้าร์ในตำแหน่ง rhythm ร่วมกับพี่น้องอีกสองคนที่ชื่อ Pedro (ไวโอลิน ) และ Cornelio ( ฟลุต ) ส่วนใหญ่จะเล่นเพลงที่นิยมในสมัยนั้นเช่น Polkas, วอลทซ์ และแซมบร้า โดยจะเล่นในโอกาสพิเศษๆ ภายหลังครอบครัวเขาได้กลายเป็นวงorchestraขนาดเล็กโดย โรมูโลเล่น harp เฮคเตอร์เล่นไวโอลิน Virgilioเป่าฟลุต ส่วนโจเซฟ,
Agustín และDiodoro เล่นกีต้าร์
|
Agustin Barrios (ขวา) และ มาร์ติน ถ่ายในโรงแรมปี 1921 |
ว่ากันว่าสิ่งที่ เขาชอบตอนเด็กๆมีอยู่สองสิ่งคือ ดนตรีและวรรณกรรมซึ่งเกิดจากการส่งเสริมของพ่อแม่เขานั้นเอง
Agustin Barrios สามารถพูดได้สองภาษาคือ สเปนและ นี( Guarani คือภาษาประจำชาติของปารากวัย)และอ่านได้สามภาษาคือ อังกฤษ, เยอรมัน , ฝรั่งเศส
|
Gustavo Sosa Escalada |
ในปี 1898 นับว่าเป็นปีที่สำคัญในเส้นทางดนตรี Barreiosได้ชมการแสดงของ นักกีต้าร์คลาสสิคชื่อ Gustavo Sosa Escalada (1877-1943) นักกีต้าร์ชาวอาร์เจนตินน่าที่ได้อพยพมาอยู่ที่ปารากวัย จากประวัติGustavo Sosa Escaladaได้ศึกษาเรียนกีต้าร์คลาสสิคกับ Carlos García Tolsa, Juan Alaís และ Antonio Ferreyro ที่ บัวโนสไอเรส ( Buenos Aires ) ประเทศอาเจนติน่าและกลับมาปารากวัยในปี1895และถือว่าเป็นครูคนแรกของเขาด้วย Gustavo Sosa Escalada สอนตามแนววิธีการเล่นของ
Tárrega , Vinas, Sor ,Aguado และ Fernando Carulli
ในปี 1901 เมื่ออายุได้ 15-16 ปี Sosa Escalada เห็นพรสวรรค์ในตัวลูกศิษย์คนนี้จึงได้โน้มน้าวให้ Barriosได้เดินทางไปยัง Asuncion เพื่อศึกษาดนตรีที่ มหาวิทยาลัยแห่งชาติซุนซิออง ( Universidad Nacional de Asunción ) ได้สำเร็จ
ใน Universidad Nacional de Asunción นอกเหนือจากการศึกษาในแผนกดนตรีแล้วเขายังได้รับการชื่นชมเป็นอย่างดีจากสมาชิกของคณิตศาสตร์สื่อสารมวลชนและวรรณกรรมแผนกของวิทยาลัย จะเห็นได้ว่าBarriosเป็นคนเก่งมีความสามารถหลากหลายจริง
Barrios ได้บันทึกแผ่นเสียงในปี 1909-1910 ( บางบันทึกบอกว่าปี 1914 สรุปคือปีที่บันทึกคงคลาดเคลื่อนกันไป แต่บันทึกเสียงที่ บัวโนสไอเรส โดยบันทึกเพลงเกี่ยวกับศาสนาชื่อ La Catedral (a) Andante Religioso , b) Allegro ) โดยเชื่อกันว่าเขาเป็นนักกีต้าร์คลาสสิคนแรกที่ได้บันทึกแผ่นเสียง ( ขัดแย้งกับที่จอห์นวิลเลียมส์เชื่อว่า มือกีต้าร์คนแรกที่บันทึกเป็นนักกีต้าร์เม็กซิกันที่ชื่อ Octaviano Yanes ได้เล่นบันทึกเพลงMexican Danceของเขา (Habanera) )
|
Made in Argentina ,Speed: 78 R.P.M., บันทึกเมื่อ 1928 |
ในปี1910 Barriosเดินทางมาที่บัวโนสไอเรสในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย ,การเมือง และ มีงานเฉลิมฉลองครบรอบ 100ปี ในการได้รับเอกราชของอาร์เจนตินา ทำให้ช่วงเวลานั้นBarriosมีงานการแสดงคอนเสิร์ตอยู่เป็นประจำ ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเขาอาจได้ดูการแสดงของนักกีต้าร์คลาสสิคคนสำคัญอีกคนหนึ่งคือ Miguel Llobet , Barrios ถึงกับเคยประกาศว่า Miguel Llobet เป็นนักกีต้าร์คลาสสิคที่ดีที่สุดที่เขาเคยได้ยินมา
|
Miguel Llobet จากปกอัลบัมของ Lorenzo Micheli |
หลังจากปี 1910 ตลอดกว่า 34 ปีเขาเดินทางไปทั่วเมริกาใต้เช่น อาร์เจนตินา,อุรุกวัย( 1912-1915,1919-1927 ), เวเนซุเอลา, คอสตาริกา, เอลซัลวาดอร์( 1939-1944 ), ชิลี, เม็กซิกัน, กัวเตมาลา, ฮอนดูรัส, ปานามา, โคลัมเบีย, คิวบา, เฮติ โดยในปี 1929 เขาได้พบกับ
Joao Permanbucoที่ บราซิล
ในเดือนมิถุนายนปี 1920 บาร์ริออส เดินทางจากบราซิลไปยังมอนเตวิเดโอเมืองหลวงของอุรุวัย (Montevideo) เป็นเวลาเดียวกับที่
เซโกเวีย (Segovia) เล่นคอนเสริตร์ในเมืองเดียวกันเข้าใจว่าทั้งสองคนอยู่ในเมืองเดียวกัน 5 สัปดาห์ แต่ไม่ได้เจอกัน ช่วงเวลานั้น เซโกเวียมัคเล่นเพลงของ Sor, Tarrega รวมถึง Granados และ Albéniz ณ.เวลานั้นเซโกเวียก็ยังไม่ได้เจอกับ Ponce, Tórroba, Villa-Lobos , ส่วน Barrios เล่นเพลง Tarrega ,Arcas, Parga, Broca และกลุ่มลาติเมริกันเช่น Albano, García Tolsa อาจจะแตกต่างกันบ้างตรงที่ เซโกเวียเล่นเพลง ที่ประพันธ์และเรียบเรียงจากเพลงหรือนักกีต้าร์คลาสสิคแต่ บาร์ริออส ประพันธ์เพลงขึ้นมาเล่นเอง
|
เซโกเวีย ( Segovia ) |
ในปี 1921 เขาทั้งคนคนจึงพบกันที่ บัวโนสไอเรส ,อาร์เจนตินา โดยการแนะนำจากเพื่อนคนหนึ่งหลังจากนั้น Barriosได้เดินทางไปหาเซโกเวียที่บ้านเพื่อแสดงดนตรีให้ฟังเกือบสองชั่งโมงที่อยู่ด้วยกัน ตามประวัติเซโกเวียรู็สึกประหลาดใจในฝีมือเป็นอย่างมาก เซโกเวียชอบบทเพลงส่วนหนึ่งและบอกว่าจะนำไปเล่นในคอนเสิตร์ของเขา ( เพลงหนึ่งในนั้นคือ La Catedral ) บาร์ริออสจึงให้ต้นฉบับโน็ตเพลงไป แต่หลังจากนั้นเซโกเวียก็ไม่เคยนำมาเล่นในคอนเสิตร์ของเขาเลย ซึ่งอาจตีความไปว่าถ้าเซโกเวียทำโน็ตหายหรือนำมาเล่นจะไปการยกระดับ บาร์ริออสซึ่งอาจมองว่าเป็นคู่แข่งในสายอาชีพของเขาก็ได้ ใน
เวลาต่อมา Barriosรู้สึกว่าเซโกเวียไม่ใช่คนที่จริงใจต่อเขานัก
ในปี 1931 เขาเล่นคอนเสิร์ตในบราซิลจนถึงเดือนสิงหาคม ในเดือนกันยายนเขาเดินทางไปเมือง เฟรนช์เกียนา หรือ กุยยานฟร็องแซซ ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลติดกับบราซิล เพื่อเล่นคอนเสิตร์ ในเดือนธันวาคมเขาเดินทางไปยังเกาะมาร์ตีนีก โดยเล่นที่เมืองหลวง ฟอร์-เดอ-ฟร็องส์ โดยได้เล่นเพลงของ Jules Massenet ซึ่งเป็นนักประพันธ์ที่ชาวมาร์ตีนีกชื่นชอบ หลังจากนั้นจึงเดินทางไปสาธารณรัฐตรินิแดด ( เป็นเกาะมีฟื้นที่ประมาณ 303 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางตอนใต้ของเวเนซุเอลา 11 กม )
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่เขาเดินทางไปเวเนซูเอลาซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา
|
Antonio Lauro |
กว่าสองเดือนเขาเล่น 25 คอนเสิร์ตในการากัสพิสูจน์ถึงความนิยมในตัวเขา เขาได้รับการยกย่องอย่างต่อเนื่องโดยได้รับเชิญไปงานสังคมที่โดดเด่นมากมาย การที่บาร์ริออสเดินทางไปที่นั้นส่งผลกระทบต่อสังคมคนเล่นกีต้าร์ที่นั้น หนึ่งในนั้นคือ
Antonio Lauro ซึ่งต่อมาถูกมองว่าเป็นนักประพันธ์และนักกีต้าร์ที่สำคัญที่สุดของเวเนซุเอลา ขณะนั้นปี 1932
Lauro ได้เรียนเปียโนและการประพันธ์เพลงมาก่อนหลังจากได้พบกับBarriosจึงเป็นจุดเปลี่ยนให้มาเล่นกีต้าร์เพียงอย่างเดียวนับเป็นจุดเปลี่ยนทำให้เกิดดาวเด่นของวงการกีต้าร์คลาสสิคในระดับโลกในเวลาต่อมา
Antonio Lauro เคยกล่าวว่า
" Barrios เป็นคนที่เปิดเผยมากและบางครั้งยังให้ความรู้กับเรา แต่ละคำถามเขาจะใช้เวลาในการตอบยาวนานและสมบูรณ์ "
ในปี1932 เวลาที่Barriosแสดงคอนเสิร์ตเขาจะแต่งตัวสวมชุดปารากวัยแบบดั้งเดิมและเรียกตัวเองว่า Nitsuga Mangoré ( the Paganini of the guitar ) 'Nitsuga' เป็นAgustín โดยการสะกดกลับหลังและ 'Mangoré' เป็นชื่อของ หัวหน้าเผ่าอินเดียแดงของกลุ่มชนพื้นเมืองTimbú
ในระหว่างปี 1934-1936 เขาเดินทางไปเล่นในยุโรปเช่น สเปน ,เยอรมัน,เบลเยี่ยม น่าเสียดายที่ไม่เคยไปอเมริกาเลยไม่งั้นผมว่าชื่อเสียงของเขาในช่วงนั้นอาจวัดได้กับเซโกเวีย แต่ผมว่าระยะยาวแล้วคนจะรู้จัก Barrios ผ่านเพลงที่เขาประพันธ์มากกว่า ส่วนเซโกเวียเป็นนักเล่นก็คงได้บันทึกไว้เป็นตำนานต่อไป
1930 เขาเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ หลังจากนั้นในปี 1993 เป็นต้นไป เขาได้อาศัยที่ เอล ซานซัลวาดอ โดยการสอนการประพันธ์และเล่นคอนเสิร์ตบ้างเป็นครั้งคราวและสุดท้ายเขาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1944 ที่ El Salvador และถูกฝังอยู่ที่ Cementerio de Los Ilustres หลังจากเสียชีวิตไปแล้วตอนนั้นคงมีชื่อเสียงระดีบหนึ่งแล้วแต่ ในปี 1977 เมื่อ
John Williams ได้นำบทเพลงของBarrios มาบันทึกทำให้ชื่อเสียงเป็นที่รู็จักอย่างกว้างขวาง
|
John Williams plays Barrios 1977 |
ก่อนหน้าที่ John Williams ก็ยังมี Laurindo Almeida และ Baltazar Benitez ทั้งสองได้บันทึกเพลง Waltz op. 8, no. 4 , Alirio Diaz บันทึกเพลง Danza Paraguay No.1, Aire de Zamba และ Cueca ช่วงต้นปี 1970 จริงๆแล้วเรียกได้ว่า ศิลปินกีต้าร์คลาสสสิคทุกคนจะต้องเล่นเพลงของเขาครับ ไม่งั้นคงไม่ใช่นักกีต้าร์คลาสสิค
กีต้าร์ของ Barrios
ในช่วงแรกๆเขาใช้กีต้าร์ที่ทำโดยชาวอเมริกาใต้ ในราวๆปี 1910 เขาได้รับกีต้าร์ที่ทำโดยชาวสเปนชื่อว่า José Ramírez ( เป็นลูกพี่ลูกน้องของManuel Ramírez ช่างทำกีต้าร์ที่ เซโกเวียใช้เป็นตัวหลัก ) กีต้าร์ที่ Barriosได้เป็นเจ้าของและใช้ในการเล่น มีหลายตัว เช่นจาก Romeo DiGiorgio ( (บราซิล), Rodolfo Camacho, และCasa Breyer Hermanos จากอาร์เจนตินา
มีกีต้าร์อีกสองตัวจากช่างเสปน คือ José Argente (รู้จักกันในชื่อ Morant ) และ Domingo Esteso ซึ่งเขาใช้เล่นเป็นตัวหลัก ตั้งแต่ปี 1935 จนเสียชีวิตในปี 1944
Barrios อุทิศชีวิตของเขาให้กับเพลงและการเขียนบทกวี เขาแต่งกว่า 300 เพลง ซึ่งแรกๆที่เขายังเขียนเนื้อเพลงคลอกับกีตาร์ Barriosชื่นชมงานของBeethoven เป็นอย่างมากและงานที่transcribed ในช่วงแรกๆเป็นเพลงของBeethoven ที่ชื่อ Minuet in D ซึ่งเขามักจะนำมาเล่นในคอนเสริต์รเป็นประจำ อีกคนหนึ่งคือ F.Tarrega เขาได้บันทึกเพลง Capricho Arabe ถึง 2 ครั้งโดยทั้งสองครั้งมีวิธีการเล่นที่แตกต่างกัน ที่กัวแตมาลา ในปี1939 เขาได้ประพันธ์ six variations on Tárrega’s งานเพลงส่วนใหญ่จะเขียนในแนวโรแมนติกโดยได้รับได้รับอิทธิพลจากดนตรีจากอเมริกากลางหรือใต้ ตามตัวอย่างรายชื่อบทเพลงที่Barrios ได้ประพันธ์ขึ้นด้านล่าง
- Abrí la Puerta Mi China : เพลงนี้แต่งเมื่อ 25 ธันวาคม 1905 เขาอาจแต่งเพลงนี้มอบให้ใครสักคน เพลงนี้แปลได้ว่า "Open the door my girl"
- Aconquija (Aire de Quena)
- Aire de Zamba : เพลงนี้ไม่ใช่ เพลงในรูปแบบของ แซมบ้าบราซิล แต่เป็นเพลงเต้นรำจังหวะ 3/4 แบบอาร์เจนติ
- Aire Popular Paraguayo
- Aires Andaluces
- Aires Criollos
- Aires Mudéjares (fragment)
- Aire Sureño (fragment)
- Allegro Sinfónico
- Altair
- A Mi Madre-serenata :เพลงนี้หมายถึง "to my mother"
- Arabescos
- Armonías de América
- Bicho Feo
- Canción de la Hilandera
- Capricho Español
- Choro da Saudade : เพลงนี้เขียนราวปี 1929 ในบราซิลหรือก่อนหน้านี้ Choro เป็นเพลงที่นิยมในบราซิลที่แปลว่าร้องไห้ หรือเสียใจ แต่เพลงโดยส่วนใหญ่จะเน้นจะเน้นจังหวะและความสนุกสนานและความสุข ชื่อภาษาอังกฤษสำหรับเพลงนี้คือ "nostalgic choro"
- Confesión (Confissao de Amor) : หมายถึง Love confession หรือการสารภาพรัก
- Contemplación
- Córdoba
- Cueca (Danza Chilena)
- Danza en Re Menor
- Danza Guaraní
- Danza Paraguaya no.1
- Danza Paraguaya no.2 'Jha,che valle'
- Danza Paraguaya (duet version)
- Diana Guaraní
- Dinora
- Divagación en Imitación al Violín
- Divagaciones Criollas
- Don Perez Freire
- El Sueño de la Muñequita ( The sleep of the litte girl )
- Escala y Preludio
- Estilo Uruguayo : เพลงแต่งในสไตล์ของ อุรุกวัย
- Estilo
- Estudio de Concierto No.1 in A major
- Estudio de Concierto No.2 in A major
- Estudio del Ligado in A major
- Estudio del Ligado in D minor
- Estudio en Arpegio
- Estudio en Si Menor (solo and duet)
- Estudio en Sol Menor
- Estudio Inconcluso
- Estudio No. 3
- Estudio No. 6
- Estudio Para Ambas Manos
- Estudio Vals
- Fabiniana
- Gavota al Estilo Antiguo
- Habanera
- Humoresque
- Invocación a Mi Madre
- Jha, Che Valle
- Julia Florida (barcarola) : บทเพลงที่สวยงานนี้แต่งปี 1938 ที่คอสตาริก้า เป็นช่วงที่ชีวิต Barrios เจอความยากลำบากทั้งสุขภาพและสถาพเงินทอง และชีวิตแต่งงาน เพื่อนที่ชือว่า Francisco Salazar ให้ที่อยู่กับเขา , Barrios จึงได้แต่งเพลงนี้ให้กับหลานของFrancisco Salazar ที่ชื่อว่า Julia Martinez
- Junto a tu Corazón
- Jota
- La Bananita (tango)
- La Catedral : Preludio - Andante - Allegro : เพลงนี้เขียนราวๆปี 1921 ต้นฉบับมีสอง Movement คือ Andante Religioso และ Allegro Solemne โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก วิหาร San José ใน มอนเตวิเดโอ ( Montevideo ) โดย Andante แทนความรู้สึกประทับใจ นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง คือ J.S Bach จะเห็นได้ว่าดนตรีช่วงนี้จะแสดงถึงความสงบคล้ายในโบสถ์และ Allegro แสดงความรู้สึกเมื่อเขาออกมาจากโบสถ์ เดินไปยังถนนที่ทุกคนรีบร้อนและไม่มีเวลา ส่วนท่อน Preludio ถูกเขียนเพิ่มเข้าไปในปี 1938 ที่ ฮาวานาประเทศคิวบา
- La Samaritan
- Las Abejas
- Leyenda de España
- Leyenda Guarani
- London Carapé
- Luz Mala
- Mabelita
- Madrecita
- Madrigal Gavota
- Maxixe
- Mazurka Apasionata
- Medallón Antiguo
- Milonga
- Minuet in A major
- Minuet in A major
- Minuet in B major
- Minuet in C major
- Minuet in C minor
- Minuet in E major
- Oración (Oración de la Tarde)
- Oración por Todos
- Pericon : นำโครงสร้างเพลงเต้นรำฟื้นบ้านของอุรุกวัย ,อาร์เจนตินา
- Pepita
- Pericón in F
- Pericón in G
- Preludio Op. 5, No. 1
- Preludio in E major
- Preludio in A minor
- Preludio in C major
- Preludio in C minor
- Preludio in D minor
- Preludio in E minor
- Preludio in G minor : เพลงนี้ประพันธ์ให้กับ Bach คนที่ Barrios บอกว่า "he elevates us to the eternal"
- Romanza en Imitación al Violoncello (Página d¹ Album, Fuegos Fátuos) : ประพันํธ์ราวๆปี 1918 เป็นช่วงที่ชีวิตมีความสุขกับความรัก
- Sargento Cabral
- Sarita : เพลงนี้ประพันธ์แบบมาซูก้า( mazurka ) คาดว่า ประพันธ์ให้กับเพื่อนสาวของเขา
- Serenata Morisca
- Tango No. 1
- Tango No. 2
- Tarantella (Recuerdos de Nápoles) : Barrios นำทำนองมาจากนักกีต้าร์ชาวบราซิล ชื่อ Levino Albano da Conceicao
- Tua Imagem : เพลงนี้มาจากภาษาโปรตุเกส แปลว่า "your image"
- Una Limosna por el Amor de Dios(Also known as "El ultimo trémolo" or "El último canto")
- Un Sueño en la Floresta (Souvenir d¹un Reve)
- Vals de Primavera
- Vals Op. 8, No. 1
- Vals Op. 8, No. 2
- Vals Op. 8, No. 3
- Vals Op. 8, No. 4 : เพลงนี้ถูกเขียนราวปี 1923 ช่วงที่เขากลับปารากวัย
- Vals Tropical
- Variaciones sobre un Tema de Tárrega : ผลงานนี้เขียนในปี 1939 ประพันธ์ในกัวเตมาลโดยเขียนเป็นลักษณะของ theme และ variations form โดยใช้ธีมหลักของเพลง Lagrima ของ F. Tárrega
- Variaciones sobre el Punto Guanacasteco
- Vidalita con variaciones in A minor
- Vidalita in D minor
- Villancico de Navidad
- Zapateado Caribe (trio)